วันพฤหัสบดีที่ 7 มกราคม พ.ศ. 2559






 ใบงานที่ 6
 
 
 
โปรแกรมจัดการสารสนเทศส่วนบุคคล
 
 
 
 
 
 
 
 
  ความหมายของโปรแกรมจัดการสารสนเทศส่วนบุคคล
 
 
     การจัดการสารสนเทศส่วนบุคคล หมายถึง การพัฒนากลยุทธ์ที่ชัดเจนในการดำเนินการกับสารสนเทศที่ได้รับ อาจจะอยู่ในรูปแบบของการจัดเก็บ การดูเเลรักษา การสืบค้น การเเสดงผล และการกำจัดสารสนเทศที่ไม่ต้องการ
    สารสนเทศ หมายถึง ข้อมูลข่าวสารทุกประเภทที่ได้รับ อาจอยู่ในรูปแบบของภาพนิ่ง ตัวอักษร ภาพเคลื่อนไหว เสียง ซึ่งอาจมีแหล่งที่มาต่างๆ เช่น โทรศัพท์ โทรสาร สื่อคอมพิวเตอร์ เป็นต้น
    ส่วนบุคคล หมายถึง การที่บุคคลมีความต้องการ หรือความจำเป็นในการใช้สารสนเทศหนึ่งๆ ในการประกอบกิจการงานหรือการดำรงชีวิตประจำวัน

ความสำคัญของการจัดการสารสนเทศส่วนบุคคล
   
   ความสำคัญของการจัดการสารสนเทศส่วนบุคคล มีเเนวคิดเกี่ยวกับการวางแผนด้านสารสนเทศสำหรับบุคคนที่เป็นเเนวคิดใหม่ที่ต้องอาศัยทักษะหลายด้าน โดยเฉพราะอย่างยิ่งทักษะด้านการจัดการ ทั้งนี้ เพื่อให้ประสบความสำเร็จในการประกอบกิจการงานเเละการดำรงชีวิตในยุคการเปลี่ยนเเปลงดังเช่นปัจจุบันเเนวคิดนี้เรียกว่า การจัดการสารสนเทศส่วนบุคคล


 
 
องค์ประกอบของระบบการจัดการสารสนเทศส่วนบุคคล
    
     องค์ประกอบของระบบการจัดการสารสนเทศส่วนบุคคล เมื่อพิจารณาตามโครงสร้างของระบบที่ใช้จัดการฐานข้อมูลเเล้ว พบว่าองค์ประกอบที่เหมือนกันคือ
    ส่วนรับเข้า เเบ่งออกเป็น 2 ส่วนย่อยคือ
  • ความต้องการด้านสารสนเทศของผู้ใช้
  • ข้อมูลที่เข้าสู่ระบบ
    ส่วนประมวลผล หมายถึง กลไกลที่ทำหน้าที่ในการจัดหมวดหมู่หาสถานที่สำหรับจัดเก็บข้อมูลเพื่อสามารถนำออกมาใช้ได้ การจัดวิธีการเข้าถึงข้อมูล
    ส่วนเเสดงผล เป็นส่วนที่มีความสำพันธ์มากระดับหนึ่ง คือ ผู้ใช้จะพึงพอใจระบบมากน้อยเพียงใด ขึ้นอยู่กับคุณภาพของผลลัพธ์ ความต้องการเเละวัตถุประสงค์ของผู้ใช้ระบบเป็นหลัก



ประเภทของระบบการจัดการสารสนเทศส่วนบุคคล
    
 
    ประเภทของระบบการจัดการสารสนเทศส่วนบุคคล จำเเนกตามรูปลักษณ์เเบ่งออกได้ดังนี้
  1.ประเภทโปรเเกรมสำรูป เช่น โปรแกรมบริหารบุคคล โปรเเกรมระบบบัญชีเงินเดือน
  2.ใช้กับไมโครคอมพิวเตอร์ในลักษณะใช้งานอิสระและผ่านเครือข่ายคอมพิวเตอร์ภายในองค์การ
  3.ฟังก์ชันการทำงานหลัก ได้เเก่ ฟังก์ชันนัดหมาย ฟังก์ชันติดตามงาน ฟังก์ชันติดต่อสื่อสาร
  4.โปรแกรมสำเร็จรูปที่ใช้ในงานสำนักงานทั่วไป เช่น โปรแกรมไมโครซอฟต์เวิร์ด โปรเเกรมเอ็กซ์เซล โปรแกรมเพาเวอร์พอยท์
 
 
ระบบนัดหมายส่วนบุคคล
   
  เป็นโปรเเกรมคอมพิวเตอร์ที่พบในระบบการจัดการสารสนเทศส่วนบุคคล มีประโยชน์ดังนี้
  1.การใช้ระบบ
  2.เป็นระบบทีใช้งานง่าย
  3.ระบบมีการบันทึกข้อมูลเเบบลัด
  4.การค้นหาข้อมูล (Search) สามารถทำได้เป็นรายวัน รายสัปดาห์ หรือ รายปี และสามารถใช้ฟังก์ชั่นทำซ้ำ
  5.หากมีกิจกรรมมากกว่าหนึ่งกิจกรรมซ้ำซ้อนในเวลาเดียวกัน ระบบจะเตือนให้ผู้ใช้ทราบเพื่อเเก้ไขปัญหา
  6.มีสัญญานเตือนกันนัดหมาย
  7.มีระบบช่วยจำ
  8.ป้อนข้อความเตือนความจำเข้าสู่ระบบนัดหมายส่วนบุคคลโดยอัตโนมัติ
  9.มีหน้าต่างเเสดงความจำเเสดงขึ้นที่หน้าจอภาพ เมื่อมีการเปิดเครื่องคอมพิวเตอร์หรือพีดีเอ
  10.ส่งข้อความเตือนความจำผ่านระบบไปรษณีย์อิเล็กทรอนิกส์
  11.เป็นระบบคอมพิวเตอร์ที่ช่วยในการนัดประชุม

 
 
 
ระบบการติดตามงานส่วนบุคคล
    
    ส่วนหนึ่งของโปรเเกรมการบริหารจัดการสารสนเทศส่วนบุคคลที่นิยมใช้ คือ ระบบการติดตามงานส่วนบุคคล เพราะมีประโยชน์ในการติดตามเพื่อให้งานประสบผลสำเร็จ ซึ่งระบบการติดตามงานส่วนบุคคลมีรายละเอียดเกี่ยวกับโปรเเกรมดังนี้
  1.ระบบติดตามงานส่วนบุคคลเป็นโปรเเกรมอรรถประโยชน์เช่นเดียวกับนาฬิกาปลุกเเละเครื่องคิดเลข
  2.ระบบติดตามงานบุคคล หมายถึง บัญชีรายงานที่ยังไม่ได้ดำเนินการ มีลักษณะคล้ายสมุดจดบันทึกช่วยจำที่เป็นกกระดาษ
  3.ระบบติดตามงานส่วนบุคคลเป็นเครื่องมืออย่างหนึ่งในการบริหารงานและเวลาของเเต่ละบุคคลโดยเฉพราะผู้มีภารกิจมาก
  4.ปัญหาที่พบในการบริหารเวลาของตนเอง คือ ความพยายามที่จะทำงานหฃายอย่างให้เสร็จภายในวันเดียว
  5.มีนิสัยผัดวันประกันพรุ่ง จึงต้องทำงานเเบเร่งรีบในช่วงเวลาสุดท้าย
 
 
พัฒนาการของระบบการจัดการสารสนเทศส่วนบุคคล
    
    ในขณะที่ใช้ระบบการจัดการสารสนเทศส่วนบุคคล  หมายถึง การพัฒนาการบริหารการจัดการจากในรูปแบบของกระดาษมาใช้เป็นระบบเทคโนโลยีที่ทันสมัย โดยมีลักษณะของการพัฒนาการ ดังนี้
    1.ระบบการจัดการสารสนเทศส่วนบุคคลในรูปแแบกระดาษที่มีมาตั้งเเต่ อดีตจนถึงปัจจุบัน
    2.ระบบสารสนเทศส่วนบุคคลในรูปเเบบคอมพิวเตอร์
    3.ระบบการจัดการสารสนเทศของกลุ่ม
 
 
เกณฑ์การเลือกระบบการจัดการสารสนเทศส่วนบุคคล
   
   การพิจารณาเป้าหมายส่วนบุคคลที่เกี่ยวกับชีวิตการทำงานเเละชีวิตส่วนตัว  และเป้าหมายขององค์กรรวมทั้งลักษณะ  ประเภท และนโยบายหลักขององค์กร มีเกณฑ์การเลือกระบบการจัดการสารสนเทศส่วนบุคคล ดังนี้
   1.ความต้องการด้านสารสนเทศ
   2.ความต้องการระบบนัดหมายส่วนบุคคลหรือระบบนัดหมายกลุ่ม
   3.ความต้องการระบบติดตามงานหรือไม่
   4.ความต้องการระบบติดต่อสื่อสารในลักษณะใด
   5.สภาพเเวดล้อมในการทำงาน
   6.การทำงานในลักษณะคนเดียวหรือกลุ่ม
   7.การทำงานภายในหรือภายนอกองค์กร
   8.การติดต่อสื่อสารกับบุคคลอื่น
   9.ความสามารถในการทำงาน
  10.ราคา
  11.ความยากง่ายในการทำงาน
  12.การสนับสนุนด้านเทคนิค
  13.การรับฟังความคิดเห็น
  14.การทดลองใช้ระบบ




อ้างอิง

https://sites.google.com/site/pornthaweenaka/na-senx-khxmul-dwy-tnxeng/hnwy-thi-1-khwam-ru-beuxng-tn-keiyw-kab-sangkhm-xxnlin/hnwy-thi-2-kar-chi-xinthexrnet-ni-ngan-thurkic/hnwy-thi-3-kar-khnha-khxmul-dwy-search-engin/hnwy-thi-4-kar-rab-sng-khxmul-kherux-khay-xinthexrnet/hnwy-thi-5-kar-chi-brikar-thi-mi-xyu-bn-sangkhm-xxnlin/hnwy-thi-6-por-eke-rm-cadkar-sarsnthes-swn-bukhkhl

จัดทำโดย

นางสาวจีรภา คัชมาตย์ บช.1/2 เลขที่ 07

นางสาวยวิษฐา อ่อนสุด บช.1/2 เลขที่ 22






 
 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น